วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2552

Auto Movie Creator

โปรแกรม Auto Movie Creator


วิธีการ Exporting... มี 4 วิธีด้วยกัน ดังนี้

1. การจัดเก็บสำหรับการเล่นบนเครื่องคอมพิวเตอร์
วิธีนี้เป็นการทำแฟ้มภาพยนตร์ที่ออกแบบเพื่อเล่นในคอมพิวเตอร์โดยตรง ไม่สามารถเล่นบนอินเตอร์เน็ตหรือเครือข่ายอื่นๆ

ชนิดของไฟล์ในการจัดเก็บสำหรับการเล่นบนเครื่องคอมพิวเตอร์มีทั้งหมด 6 ชนิด
Windows Media Video (WMV)
WMV High Definition (WMV HD)
MPEG Formats (VCD, SVCD, DVD, MPEG 1, MPEG 4)
QuickTime (MOV)
Audio Video Interleaved (AVI)
Digital Video (DV AVI)
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเลือกรูปแบบการจัดเก็บแบบใด แต่ผลออกมาเหมือนกัน

1. เลือกรูปแบบของไฟล์ > MPEG formats (DVD,VCD,SVCD,MPG,MP4)
2. เลือก Profile เป็นการเลือกโครงร่างคุณสมบัติของไฟล์ > MPG 640*480*

















3. เมื่อได้เลือกรูปแบบไฟล์และโครงร่างแล้ว กดถัดไป > Next
4. เลือกชื่อไฟล์และที่จัดเก็บ






5. ถ้าต้องการแสดงงานให้ดูหลังจากที่ทำการจัดเก็บเสร็จแล้ว ให้ทำเครื่องหมายถูกที่ช่อง Preview movie when finished และ กด Finish


















2.การจัดเก็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
วิธีนี้เป็นการจัดเก็บไฟล์โดยเฉพาะเพื่อเล่นในอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น ผู้เล่นวีดีโอที่เคลื่อนย้ายได้, โทรศัพท์เคลื่อนที่, หรือ PDA
ชนิดของอุปกรณ์ต่างๆที่สามารถเล่นวิดีโอแบบเคลื่อนที่หรือแบบพกพา
Apple iPod
Apple iPod Touch
Apple iPhone
Sony PSP
Archos
Palm
BlackBerry
Cell Phones
Creative Zen
Windows Mobile Devices (Pocket PC)
Microsoft Zune

1.เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการจัดเก็บ > Apple iPod Touch
2. เลือก profile เป็นการเลือกโครงร่างคุณสมบัติของไฟล์ > MP4 480*320 Normal quality*
















3. เมื่อได้เลือกรูปแบบไฟล์และโครงร่างแล้ว กดถัดไป > Next
4. เลือกชื่อไฟล์และที่จัดเก็บ





5. ถ้าต้องการแสดงงานให้ดูหลังจากที่ทำการจัดเก็บเสร็จแล้ว ให้ทำเครื่องหมายถูกที่ช่อง Preview movie when finished และ กด Finish



















3. แชร์บนเว็บ
แชร์บนเว็บเป็นการส่งออกภาพยนตร์ ในรูปแบบที่สามารถเข้ากันได้ เป็นการส่งโดยอัตโนมัติเพื่อบริการวีดีโอเว็บ คุณสามารถจัดทำวีดีโอของคุณเพื่อบริการเว็บที่เป็นที่ชื่นชอบ หรือเพื่อFTP ที่ใช้เครื่องเซิฟเวอร์ใดๆส่ง
บริการต่างๆ ที่สามารถทำได้ ดังนี้
Video Desk
FTP (any FTP server)
YouTube
Google Video
Yahoo Video

1. เลือกบริการที่ต้องการ > Video Desk
2. เลือก Profile เป็นการเลือกโครงร่างคุณสมบัติของไฟล์ > WMV 640*480 High Bandwidth*


















3. เมื่อได้เลือกรูปแบบไฟล์และโครงร่างแล้ว กดถัดไป > Next
4. คุณสามารถเพิ่มโครงร่างใหม่ที่จุดนี้แก้ไขโครงร่างที่มีอยู่ หรือสร้างบัญชีผู้ใช้บนบริการเว็บที่เลือก
















5. หลังจากนั้นกด Publish เพื่อทำการส่ง
6. เมื่อเสร็จสิ้นแล้วให้กด Finish


4.ส่งอีเมลล์วิดีโอ
เป็นการสร้างแฟ้มวิดีโอ แล้วแนบไฟล์โดยอัตโนมัติเพื่อส่งข้อความอีเมลล์เพื่อแชร์กับอื่นๆ การแบไฟล์วิดีโอเพื่อส่งอีเมลล์อาจเป็นปัญหาในการส่งได้เพราะเป็นไฟล์ที่ใหญ่

1. กด profile ที่ต้องการ
















2. กด Next เพื่อตั้งชื่อและเลือกที่จัดเก็บ

















3. กด Export เพื่อดำเนินการต่อไป

















4. กด Attach เพื่อทำการแนบไฟล์วิดีโอในการส่งอีเมลล์


วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

การศึกษากับสื่อมัลติมีเดีย

มัลติมีเดีย หรือสื่อประสม เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถแสดงข้อความเสียง และภาพ ซึ่งอาจจะเป็นภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวได้พร้อมๆ กัน
ถ้าอธิบายเพียงแค่นี้ก็คงนึกว่า มัลติมีเดีย ก็คงไม่แตกต่างไปจากเครื่องรับโทรทัศน์ ซึ่งก็สามารถแสดงข้อความ เสียง และภาพได้พร้อมๆ กัน
ความแตกต่างจึงอยู่ที่ตัวคอมพิวเตอร์เพราะคอมพิวเตอร์นั้นทำให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับข้อความ ภาพ และเสียงที่เห็นและได้ยินได้ อีกนัยหนึ่งมัลติมีเดียมีสมรรถนะในการโต้ตอบ (Interactivity) ในขณะที่โทรทัศน์ไม่มีความสามารถนี้
เดิมทีนั้นการใช้คอมพิวเตอร์จำกัดอยู่แต่เพียงการคำนวณตัวเลขข้อมูลต่างๆ ต่อมาก็ได้ขยับขยายไปสู่การประมวลคำ (Word Processing) ซึ่งก็คือการพิมพ์เอกสารรายงาน จดหมายต่างๆ อันเป็นงานที่เราใช้มาจนกระทั่งทุกวันนี้ ต่อมาอีกก็มีผู้คิดนำภาพมาเก็บไว้เป็นข้อมูลเพื่อบรรณาธิกรภาพที่เก็บไว้นั้น เช่น นำภาพมาตัดต่อ ขยาย ย่อ เปลี่ยนสเกล ฯลฯ เมื่อนำมาผนวกกับงานประมวลคำก็ทำให้เกิดงานใหม่ที่เรียกว่า งานพิมพ์ตั้งโต๊ะ (Desktop Publishing) อันเป็นงานที่สำนักพิมพ์ทั้งหลายจำเป็นต้องนำมาใช้ มิฉะนั้นก็จะไม่สามารถแข่งกับผู้อื่นได้
ถัดจากภาพนิ่งสำหรับพิมพ์ ก็มีผู้ใช้คอมพิวเตอร์สร้างเสียงต่างๆ รวมถึงเสียงดนตรี ในตอนแรกก็เป็นเสียงหยาบๆ ไม่น่าฟัง ต่อมาก็มีผู้พัฒนาแผ่นวงจรเสียงขึ้นใช้กับคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถสร้างเสียงเครื่องดนตรีแบบต่างๆ ได้อย่างไพเราะ ในขณะเดียวกันก็มีผู้สนใจใช้คอมพิวเตอร์สร้างภาพเคลื่อนไหว (Animation) ขึ้นในคอมพิวเตอร์ด้วย
วิวัฒนาการทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ทำให้คอมพิวเตอร์พร้อมที่จะแสดงทั้งข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง แล้วในที่สุดเทคโนโลยีมัลติมีเดียก็เกิดขึ้น
การใช้คอมพิวเตอร์เก็บภาพและเสียงนั้นจำเป็นจะต้องใช้สื่อบันทึกที่มีความจุสูงมาก แผ่นดิสเกตต์ที่มีความจุเพียง 1.44 เมกะไบต์ นั้นไม่พอเพียง ดังนั้นนักคอมพิวเตอร์จึงหันไปหา Compact Disk ซึ่งมีใช้อยู่แล้วในวงการเพลงมาใช้เป็นสื่อบันทึก แล้วเรียกเสียใหม่ว่า CD-ROM ซึ่งมีความหมายว่าเป็นแผ่นซีดี ที่ใช้บันทึกข้อมูลสำหรับอ่านอย่างเดียวจะใช้บันทึกใหม่ไม่ได้ แผ่นซีดี-รอมนี้มีความจุมากถึง 600 เมกะไบต์ ดังนั้นจึงมากเพียงพอที่จะใช้ในงานมัลติมีเดีย
ในเวลานี้งานที่นิยมทำเป็นมัลติมีเดีย ก็คืองานจัดทำสารานุกรมซึ่งนำเอาสารานุกรมแบบเก่าที่พิมพ์เป็นเล่มมาจัดทำใหม่ให้มีทั้งภาพเคลื่อนไหว และเสียงอธิบาย งานคอมพิวเตอร์ช่วยสอนซึ่งมีทั้งภาพ เสียง และแบบฝึกหัด เกมคอมพิวเตอร์ งานโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้า ฯลฯ ในบรรดางานเหล่านี้เกมคอมพิวเตอร์ และงานด้านคอมพิวเตอร์ช่วยสอนได้รับความนิยมมาก เกมนั้นไม่ต้องพูดมาก เพราะมีผู้นิยมเล่นมากอยู่แล้ว ส่วนบทเรียนในรูปแบบมัลติมีเดียนั้นก็มีผู้สนใจจัดทำออกมาจำหน่ายมากเช่นกันโดยเฉพาะทางด้านสอนภาษาต่างประเทศ